คาเตนัคโช่ (Catenaccio)
คาเตนัคโช่ คือ รูปแบบการเล่นที่คิดค้นขึ้นในประเทศอิตาลี โดยคนที่นำมาใช้จนมีชื่อเสียงมากที่สุด คือ เอเลนิโอ้ เอร์ราร่า ของอินเตอร์ มิลาน ชุดครองยุโรป ในช่วงทศวรรษที่ 1960s ซึ่งคำว่า "คาเตนัคโช่" มีความหมายว่า "ปิดประตู" เป็นรูปแบบการเล่น ที่คิดค้นขึ้นมาเพื่อรับมือกับสไตล์เกมรุก โดยเฉพาะโททัล ฟุตบอล ซึ่งลักษณะการเล่นจะเป็นแบบเน้นเกมรับซะเป็นส่วนใหญ่ แล้วค่อยโต้อย่างมีระบบ เล่นในลักษณะคุมโซน ทุกคนมีหน้าที่ประกบคู่ต่อสู้ อันเนื่องมาจากโททัล ฟุตบอล นั้น ไม่ว่าใครก็สามารถขึ้นมาลุ้นทำประตูได้ จึงทำให้คาเตนัคโช่ ต้องเน้นการตั้งรับแบบคุมโซน ซึ่งรูปแบบการเล่นนี้เอง ที่ทำให้ฟุตบอลอิตาลีค่อนข้างจะน่าเบื่อ ยิงประตูกันน้อย และชัยชนะส่วนใหญ่ในยุคนั้น มีน้อยมากที่จะขาดเกิน 3 ลูก ส่วนใหญ่แล้ว สกอร์ที่ชนะกันเยอะที่สุด คือ 1-0 และบ่อยครั้งที่เสมอกัน 0-0

แผนผังการเล่นแบบคาเตนัคโช่ ของเอเลนิโอ้ เอร์ราร่า
ลักษณะเด่นที่สำคัญของคาเตนัคโช่ คือ การนำบทบาทของลิเบอโร่ (ตัวฟรี) หรือที่เรียกว่า "สวีปเปอร์" ที่อยู่ในตำแหน่งด้านหลังของเซ็นเตอร์แบ็ค มีหน้าที่ในการเก็บกวาด บอลที่หลุดจากเซ็นเตอร์มา เหมือนเป็นกำแพงชั้นที่สอง ไว้คอยกั้นแนวรุกฝ่ายตรงข้ามนั่นเอง

La Grande Inter ในยุค 1960s
ในยุคของเอร์ราร่า ในช่วงทศวรรษที่ 1960s กองหลังทั้ง 4 คน จะเล่นแบบประกบตัวต่อตัว (Man Marking) อย่างแน่นหนา แต่ภายหลัง ในช่วงทศวรรษที่ 80 เมื่อได้ผสานรวมเข้ากับแท็คติค เพรสซิ่ง ฟุตบอล ที่ซาคคี่คิดค้นขึ้น คาเตนัคโช่ก็เปรียบเสมือนเสือติดปีก เพราะทั้งสองแท็คติค ต่างเกื้อหนุนซึ่งกันและกันอย่างดีเยี่ยม ผลคือ เอซี มิลาน ในยุคปลาย 80 ถึงต้น 90 กลายเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก แถมทีมต่างๆ ในกัลโช่ยุคนั้น ยังทำตามอย่างเสียด้วย จนบอลกัลโช่ยุคนั้น เป็นบอลเขี้ยวมหาเขี้ยว ยิงกันได้ยากเย็นสุดขีด กองหน้าคนไหนที่มาเล่นในกัลโช่ แล้วยิงได้เกิน 15 ลูก ถือว่าเก่งสุดๆ ใครยิงได้ถึง 20 ลูก นั่นคือ ยอดกองหน้าของโลก


แผนผังการเล่นแบบคาเตนัคโช่ ของเอเลนิโอ้ เอร์ราร่า
ลักษณะเด่นที่สำคัญของคาเตนัคโช่ คือ การนำบทบาทของลิเบอโร่ (ตัวฟรี) หรือที่เรียกว่า "สวีปเปอร์" ที่อยู่ในตำแหน่งด้านหลังของเซ็นเตอร์แบ็ค มีหน้าที่ในการเก็บกวาด บอลที่หลุดจากเซ็นเตอร์มา เหมือนเป็นกำแพงชั้นที่สอง ไว้คอยกั้นแนวรุกฝ่ายตรงข้ามนั่นเอง

La Grande Inter ในยุค 1960s
ในยุคของเอร์ราร่า ในช่วงทศวรรษที่ 1960s กองหลังทั้ง 4 คน จะเล่นแบบประกบตัวต่อตัว (Man Marking) อย่างแน่นหนา แต่ภายหลัง ในช่วงทศวรรษที่ 80 เมื่อได้ผสานรวมเข้ากับแท็คติค เพรสซิ่ง ฟุตบอล ที่ซาคคี่คิดค้นขึ้น คาเตนัคโช่ก็เปรียบเสมือนเสือติดปีก เพราะทั้งสองแท็คติค ต่างเกื้อหนุนซึ่งกันและกันอย่างดีเยี่ยม ผลคือ เอซี มิลาน ในยุคปลาย 80 ถึงต้น 90 กลายเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จที่สุดในโลก แถมทีมต่างๆ ในกัลโช่ยุคนั้น ยังทำตามอย่างเสียด้วย จนบอลกัลโช่ยุคนั้น เป็นบอลเขี้ยวมหาเขี้ยว ยิงกันได้ยากเย็นสุดขีด กองหน้าคนไหนที่มาเล่นในกัลโช่ แล้วยิงได้เกิน 15 ลูก ถือว่าเก่งสุดๆ ใครยิงได้ถึง 20 ลูก นั่นคือ ยอดกองหน้าของโลก

ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น